วิธีรับมือกับความไม่สบายกายและใจ
เกศสุดา บุญงามอนงค์ Yosuda: Awakening Space
ในวันที่คุณต้องทนกับความเจ็บปวดทางร่างกายหรือถูกกระทบทางจิตใจ เช่นมีคนทำให้คุณโกรธ เสียใจ หรือมีเรื่องราวที่ทำให้คุณกลัวและวิตกกังวล คุณอาจจะปวดหลัง หรือปวดหัว บาดเจ็บ ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครที่อยากจะอยู่กับความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ หรือเจอกับความยุ่งยากต่างๆ
เราแต่ละคนเติบโตขึ้นมา และเรียนรู้วิธีการที่จะป้องกันความไม่สบายและยุ่งยากนั้น ด้วยแนวทางที่เหมือนกันหรือแตกต่างกันออกไป แล้วถ้าหากคุณในจุดที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความยุ่งยากและเจ็บปวดนั้นได้อีกต่อไปล่ะ คุณจะทำอย่างไร?
บทความนี้นำเสนอวิธีการฝึกง่ายๆ ด้วยการรับรู้ เฝ้าดู ยอมรับ และเผชิญหน้ากับความไม่สบายนั้นตรงๆ ที่มีผลดีต่อสุขภาพ ต่อความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวเองและคนที่สำคัญในชีวิต
ผู้เขียนได้นำประยุกต์เทคนิคของโยคะและการเจริญสติ มาใช้เพื่อพัฒนาการรับรู้ภายใน เพื่อปรับกายและจิต ที่จะช่วยให้เราเท่าทันความคิด อารมณ์ ความรู้สึกและการกระทำ ทำให้เราค้นพบสาเหตุของความไม่สบายกายและใจตามจริง และค้นพบแนวทางที่เหมาะสมในการดูแลตัวเอง
ประเด็นที่สำคัญสำหรับผลลัพท์ที่จะได้จากการฝึกสติคือความอ่อนโยน กรุณาต่อตัวเอง การอยู่กับความไม่พึงพอใจได้อย่างไม่กระวนกระวาย แต่สามารถที่จะพักลงไปในความยุ่งยากนั้น ไม่หนีปัญหา แต่เผชิญหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมั่นคง และดำรงอยู่การเปลี่ยนแปลงที่ดี
วิธีการฝึกง่ายๆ ทีละขั้นตอน
เช่น ลมหายใจและอุณหภูมิในร่างกาย เป็นแบบไหน กล้ามเนื้อตึง เกร็ง เย็นชา เบา คลาย เกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร ให้เข้าไปรับรู้ความรู้สึกนั้นอย่างเต็มที่ ฝึกดึงจิตให้ดำรงอยู่ตรงนั้น เฝ้าดูและยอมรับกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
เป้าหมายหลักในการฝึกนี้ไม่ใช่การขจัดความไม่สบายของร่างกาย หรือตัดปัญหาในชีวิตที่กำลังเผชิญ แต่เป็นการฝึกเรียนรู้ที่จะยอมรับและผ่อนคลายกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น หากคุณมีปัญหาทางร่างกายและจิตใจที่คั่งค้างสะสม คุณจำเป็นที่จะต้องแก้ไข พบผู้ชำนาญการแต่ละด้านที่จะช่วยให้คุณค้นพบสาเหตุของปัญหาและแนวทาง บำบัดหรือแก้ไขที่ถูกต้อง เหมาะสม
ปล่อยวางความคิดถูกหรือผิด
ถ้าคุณไม่สามารถทำตามวิธีการต่างๆ ได้ทั้งหมด หรือไม่ว่าจะมีความคิดหรือความรู้สึกอะไรเกิดขึ้น จะเป็นความคิดหรือความรู้สึกที่เราชอบหรือไม่ชอบก็ตาม ให้ยอมรับและรับรู้ ระวังความเชื่อในความคิดที่ตัดสินตัวเอง อ่อนโยนกับตัวเอง ให้รับรู้ว่ามันเกิดขึ้นอย่างไร มีอารมณ์อะไรและความรู้สึกทางร่างกายอย่างไร แล้วให้ปล่อยวางความคิดนั้น
คุณสามารถฝึกได้ทุกเวลา
สำหรับผู้ที่ฝึกโยคะ (อ่านเพิ่มเติม ตั้งมั่นอยู่บนฐานกายและใจที่มั่นคง)
หรือออกกำลังกายแบบต่างๆ คุณสามารถนำเทคนิคนี้ไปพัฒนาและปรับใช้ได้ โดยพักลงไปในร่างกายที่ไม่สบาย ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอริยาบทใด หรือทำอะไรอยู่
แต่ก็ไม่ลืมที่จะขยายการรับรู้ไปสู่ความรู้สึกด้านบวก ด้านเบา หรือสบายของร่างกาย และสิ่งรอบๆ เพื่อไปช่วยเสริมด้านหนัก ตึงเครียด ทุกอารมณ์หรือความรู้สึกของร่างกายที่เกิดเป็นความปกติธรรมดาของมนุษย์ เป็นความจริงของชีวิต ฝึกเรียนรู้ที่จะยอมรับความรู้สึกของอารมณ์และร่างกายทุกๆ ด้าน
เมื่อเรายอมรับและเข้าใจความจริงเหล่านี้ เราก็จะปล่อยวางความคาดหวังที่เกินความจริงไปได้ไม่ยาก
เหตุผลทางวิทยาศาสตร์
การฝึกให้จิตดำรงอยู่กับความรู้สึกของร่างกายล้วนๆ เป็นเทคนิคที่จะช่วยให้เราลดความคิดปรุงแต่งของความคิดที่นำไปสู่อารมณ์ด้านลบ ไม่ทำให้ความเครียด หรือความเจ็บปวดเพิ่มระดับมากกว่าที่มันควรจะเป็น
เมื่ออารมณ์ด้านลบเพิ่มขึ้นอาการตึง เครียดในร่างกายก็เพิ่มขึ้น หากคุณกำลังเผชิญหน้ากับความเจ็บป่วยของร่างกาย ก็ยิ่งดูเหมือนว่าความเจ็บนั้นช่างปวดกว่าที่เป็น ระบบประสาทที่เรียกว่า Sympathetic จะถูกกระตุ้นให้ทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้ หัวใจเต้นเร็วขึ้น กล้าเนื้อเกร็งตัว ความดันโลหิตสูงขึ้น หากเป็นอย่างเรื้อรังสามารถทำให้เส้นเลือดในสมองแตกได้ มีปัญหาในการขับถ่าย น้ำตาลและไขมันในเลือดสูงขี้น ระบบต่างในร่างกายแปรปรวนเช่น เป็นโรคกระเพราะอาหาร เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และประจำเดือนมาไม่ปกติ
แต่ถ้าหากคุณสามารถดำรงจิตให้ตั้งมั่นอยู่กับร่างกาย จัดปรับและคลายร่างกายด้วยการปรับลมหายใจ ตามวิธีการข้างต้น ก็จะช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย Parasympathetic ทำงาน ความตึงเครียดไม่ขยายออกไป ช่วยปรับระบบต่างๆในร่างกายทำงานได้ตามปกติ ต่อเนื่อง แม้ว่าความเจ็บปวดของร่างกายจะยังคงอยู่
คำเชิญชวน
หากคุณได้ลงมือฝึกตามวิธีการขั้นต้น คุณจะพบว่านอกจากจะมีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกายแล้ว สิ่งสำคัญยิ่งที่ได้ตามมาคือการเป็นผู้มีทักษะในการที่จะอยู่กับความยุ่งยาก ด้วยสภาวะจิตที่มั่นคง สงบนิ่งและผ่อนคลาย พร้อมความสามารถในการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพไม่ถูกควบคุมด้วยอารมณ์ด้านลบ มีความมั่นใจตัวเอง มีอิสระ ปิติ สุขและสุขภาวะที่ดี
ผู้เขียน: เกศสุดา บุญงามอนงค์ที่ปรึกษาทางชีวิต, ครูผู้สอนการเจริญสติ, ครูโยคะและครูนพลักษณ์, ผู้เขียนหนังสือ “โยคะแห่งสติ” ผู้ก่อตั้ง http://www.yosuda.com/