ขอบคุณและกรุณา ต่ออารมณ์ด้านลบ
โดย เกศสุดา บุญงามอนงค์ …………
คุณมีมุมมองต่ออารมณ์ และความรู้สึกด้านลบที่เกิดขึ้นในตัวเองอย่างไร?
เวลาที่คุณมีอารมณ์ด้านลบ เช่น มีความผิดหวัง โกรธ ขุ่นเคือง วิตกกังวล โศกเศร้า ละอาย และมีความกลัว คุณคิดและรู้สึกกับอารมณ์เหล่านี้อย่างไร?
คุณเคยมีความคิดตัดสินและต่อว่า หรือต่อสู้อีกทั้งหาทางวิ่งหนีไปจากอารมณ์เหล่านี้หรือไม่? คุณเคยรู้สึกเครียด กังวลจากการมีความคิดและความรู้สึกด้านลบเกิดขึ้นหรือไม่? แล้วบ่อยครั้งแค่ไหนที่คุณเกิดความกลัว และโกรธแล้วมีการกระทำที่เป็นผลลบต่อตัวเองและคนที่คุณห่วงใย?
ความรู้สึกทางอารมณ์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นมนุษย์ เรามักจะมีแนวโน้มที่จะชอบและยอมรับอารมณ์ด้านบวกต่อตัวเราและคนอื่น ซึ่งก็เป็นที่ยอมรับได้และไม่ผิดอะไร
และเราก็มักจะมีแนวโน้มที่จะหลีกเหลี่ยง ต่อสู้กับอารมณ์ด้านลบที่เราไม่ชอบ และนั่นก็ไม่ได้ผิดอะไรที่เรายอมรับได้ยาก
ชีวิตคุณจะเป็นอย่างไรถ้าหากคุณสามารถใช้อารมณ์ด้านลบเป็นแนวทางที่จะช่วยให้เข้าใจ ค้นพบตัวเองและสิ่งที่คุณให้คุณค่า ค้นพบความต้องการลึกๆ ที่จำเป็น และหาวิธีดูแลคุณค่าและความต้องการนั้นได้อย่างเหมาะสม
ข่าวดี คุณสามารถที่จะได้รับประโยชน์จากความคิดและอารมณ์ด้านลบ
ความคิดด้านลบบอกถึงแนวคิด ความเชื่อ สิ่งที่เราให้คุณค่า
อารมณ์ด้านลบ บอกถึงความต้องการ (Needs) ที่จำเป็นที่เป็นระดับของความอยู่รอด* ซึ่งเราสามารถเรียนรู้ ตั้งคำถาม ทำความเข้าใจกับตัวเอง และหาวิธีทางที่จะดูแลตัวเอง
ความเจ็บปวด ความเครียดและอารมณ์ด้านลบต่างๆ นั้นมักจะมาจากวิธีการ มุมมองต่อความคิด ความรู้สึกและการกระทำของเราเป็นส่วนใหญ่
ทุกวันนี้คุณอาจจะสังเกตเห็นว่าอัตราส่วนของผู้คนรอบๆ ตัวเรามีความทุกข์ ความเครียดและความวิตกกังวลในชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่เพียงแต่ผู้ใหญ่เท่านั้น แม้แต่เด็กก็ตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้มากขึ้นด้วย
ถ้าคุณหรือคนรอบตัวคุณกำลังเผชิญหน้ากับความเครียดและวิตกกังวล ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด และไม่ต้องการพึ่งยาเป็นหลัก นี่เป็นวิธีการฝึกที่จะป้องกันและลดความเครียดที่คุณสามารถลองฝึกเองได้
วิธีการรับมือกับความคิดด้านลบ
วิธีการรับมือกับอารมณ์ด้านลบ
5.1 อารมณ์ด้านลบเกิดขึ้น นั่นหมายความว่าความต้องการที่สำคัญของเราบางอย่างไม่ได้รับการดูแล
5.2 อารมณ์ด้านบวกเกิดขึ้น หมายความว่า ความต้องการด้านลึกของเราบางอย่างได้รับการดูแล
การให้เวลากับตัวเองได้ค้นหาคำตอบจากอารมณ์นั้น เป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ควรหลบเลี่ยง ต่อสู้ ตัดสินและผลักไส
หากความต้องการนั้นเกี่ยวข้องกับคนอื่น ก็อาจจะต้องบอกกล่าว และร้องขอด้วยความจริงใจและกรุณา
เมื่อเราเท่าทันความคิด เราก็จะรับรู้และเท่าทันอารมณ์และความรู้สึกทางร่างกาย
เมื่อเรายอมรับ อนุญาตและเท่าทันอารมณ์ความรู้สึกด้านลบเราจะเข้าใจและจัดการดูแลมันได้ดีขึ้น
การฝึกการเจริญสตินั้นคือการฝึกที่จะยอมรับและเท่าทันกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในตัวเรา โดยไม่ตัดสิน ต่อสู้ และหลบหนี
ยิ่งเราฝึกมากเท่าไหร่ เราก็จะมีความกรุณาและเมตตาต่อตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น
เมื่อเราเข้าใจและตระหนักรู้ต่อความรู้สึกและความต้องการที่สำคัญของตัวเองได้มากขึ้นเพียงไร เราก็จะเข้าใจและตระหนักรู้ถึงความรู้สึกและความต้องการที่จำเป็นของผู้อื่นได้ดีขึ้นด้วย
หากวิธีการฝึกที่แนะนำในนี้ยากที่จะทำตามในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะรายละเอียดที่ซับซ้อนในการฝึกรับมือกับอารมณ์ในขณะที่มันกำลังเกิด ผู้เขียนยินดีที่จะแนะนำวิธีการฝึกแบบตัวต่อตัว สนใจติดต่อสอบถามหลักสูตรการเรียนเพื่อทำความเข้าใจกับอารมณ์ ความต้องการที่จำเป็นลึกๆ ที่สอดคล้องกับอารมณ์และหาทางดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อสุขภาพที่ดีและชีวิตที่มีสุขภาวะได้ โดยอีเมล์มาที่ yosudabliss@gmail.com ค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เขียนได้ที่ www.yosuda.com
*ความหมายคือ Needs ซึ่งหมายถึงความจำเป็นต่อชีวิตมนุษย์ ที่ต่างไปจากความต้องการทั่วไป (อยาก) Wants
เช่นเราต้องการอาหาร เพื่อดูแล Need หรือความต้องการที่จำเป็นเพื่อที่จะอยู่รอดนั่นเอง